WaterfallThaiLand



น้ำตกทีลอซู จ.ตาก
      ข้อมูลเล็กน้อยค่ะ น้ำตกทีลอซูเกิดจากลำห้วยกล้อท้อไหลมาจากผืนป่าบริเวณทิศตะวัตตกติดชายเแดนพม่า ลำน้ำทั้งสายตกลงจากหน้าผาสูงกลางป่าทึบของป่าทุ่งใหญ่ในเขตพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีโอกาสได้ไปมาค่ะสวยมากเลย ถ้ามีโอกาสอีกจะไปให้ได้ค่ะ
ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเองเป็นผลงานของคุณล้อค่ะ แต่อยากให้เพื่อน ๆ ได้ชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแห่งนี้ นี่ก็คงจะใกล้ปลายฝนต้นหนาวแล้วนะคะ
ไปน้ำตกทีลอซูช่วงไหนดี เดือนไหนสวยสุด (ขอเพิ่มเติมข้อมูลเล็กน้อยค่ะ)

  • ไปช่วงต้นฝนดี มิ.ย. - ก.ค. สภาพเส้นทางที่ล่องเรือยางสวยมาก ต้นไม้เพิ่งออกใบใหม่สีเขียวสดป่าสวย น้ำตกพองาม
  • ไปช่วงกลางฝนก็ดี ส.ค. - ต.ค. น้ำเยอะดี น้ำตกเต็มหน้าผา แต่ต้องเดินเข้าไป คนก็ไม่ค่อยมีเพราะไม่อยากเดิน
  • ไปช่วงหมดฝนก็ดี พ.ย. - ธ.ค. สบายๆ ไม่ต้องเดิน นั่งรถถึงจุดพักแรม คนเยอะแต่น้ำเริ่มลดลง
  • ไปช่วงหนาวจนถึงแล้วก็ดี ม.ค. - เม.ย. คือว่าน้ำใสดี คนก็น้อย น้ำก็น้อย




น้ำตกแม่ยะ จ.เชียงใหม่
            น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามมาก มีขนาดใหญ่ที่สุด สวยที่สุด และสูงที่สุดของของบรรดาน้ำตกในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เคยได้รับการจัดอันดับเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศไทย ก่อนมีการค้นพบน้ำตก ทีลอซู ที่จังหวัดตาก สายน้ำจากลำห้วยแม่ยะตกจากหน้าผาสูงชันไหลลดหลั่นลงมาประมาณ 30 ชั้น รวมความสูงกว่า 260 เมตร ในช่วงฤดูฝนสายน้ำตกจะแผ่กว้างถึง 100 เมตร เหมือนกับม่านน้ำ แล้วไหลลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ดูสวยงามมาก บางช่วงของหน้าผา เป็นชะง่อนหินให้นักท่องเที่ยวเข้าไปหลบละอองไอน้ำที่ตกกระทบมองดูเหมือน ม่านหมอกสีขาวสะอาดตา สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติอีกรูปแบบหนึ่ง แล้วลงเล่นน้ำที่แอ่งด้านล่างอย่างสนุกสดชื่น น้ำตกแม่ยะในฤดูแล้งปริมาณน้ำอาจลดน้อยลง แต่สายน้ำตกจะใสสะอาดกว่า รอบๆบริเวณน้ำตกแม่ยะ เป็นป่าไม้พรรณไม้ร่มรื่น เหมาะสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ทางด้านท้ายน้ำตกแม่ยะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ได้ติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เพื่อนำน้ำมาผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถกางเต้นท์พักแรมที่น้ำตกแม่ยะได้ 






น้ำตกแม่สุริน จ.แม่ฮ่องสอน

         เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม ตัวน้ำตกแม่สุรินนั้นแม้จะไม่ใหญ่แต่สูงมาก นับเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของภาคเหนือ ลักษณะของสายน้ำจะไหลจากหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร ตกลงมาสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างระหว่างหุบเขา ลักษณะพื้นที่โดยรอบเป็นป่าสนและป่าดิบ ซึ่งบางครั้งจะสามารถพบเห็น เก้ง กวาง หมี ลิง และนกหลายชนิด
           ด้านบนสุดเป็นบริเวณที่กางเต็นท์ของนักท่องเที่ยว ซึ่งมีทางเดินลงมาดูข้างล่างได้ ใช้เวลาเดินลงและเดินขึ้นประมาณ 3 ช.ม. ขาเดินลง จะเร็วและง่ายหน่อย แต่ขาเดินขึ้นหรือปีนขึ้น … คุณเอ๊ยยย เหนื่อยหอบ เหงื่อซกเลย แต่น้ำก็เย็นเจี๊ยบฉ่ำใจ …..อุอุ ก้อมัน …น้ำตกอยู่บนภูเขา จ.แม่ฮ่องสอน
นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะไปชมน้ำตกแม่สุริน ค่าธรรมเนียมชมน้ำตก ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท รถยนต์ 30 บาท ควรจะไปในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม เพราะจะได้ชมทุ่งดอกบัวตองบานสะพรั่งบนดอยแม่อูคอ ซึ่งเป็นทางผ่านไปทางน้ำตก … อาจจะตั้งค่ายพักแรมที่ดอยแม่อูคอ และใช้เวลาในช่วงกลางวัน ไปชมน้ำตกแม่สุริน ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากทุ่งบัวตอง ประมาณ 11 กิโลเมตร
          การเดินทาง…… น้ำตกแม่สุริน อยู่ในเขตบ้านแม่สุริน ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน การเดินทางใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 108 (แม่ฮ่องสอน – ขุนยวม) ถึงอำเภอขุนยวม แล้วแยกขวาเข้าไปอีกประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับไปทุ่งดอกบัวตอง ที่ดอยแม่อูคอ ห่างจากทุ่งบัวตอง ราว 11 กม. ใช้ถนนของกรมทางหลวงชนบท สาย แม่อูคอ – บ้านหัวฮะ
             อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุริน มีบริการบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว ติดต่อ อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุริน ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน โทร.0-5361-2996


น้ำตกเหวนรก :อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

        เป็นน้ำตกที่เกิดจากคลองท่าด่าน น้ำตกเหวนรกเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นน้ำตกที่มีความสูงและสวยงามมากแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่เดิมก่อนที่จะมีการตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่นั้น จะต้องเดินเท้าเข้ามาโดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง แต่หลังจากตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่เสร็จแล้ว ถนนตัดผ่านใกล้น้ำตกเหวนรกมาก โดยมีลานจอดรถห่างจากตัวน้ำตกเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ระหว่างทางสามารถเดินชมธรรมชาติอันสวยงามสองข้างทางได้ เมื่อถึงตัวน้ำตกจะมีบันไดลงไปอีกราว 50 เมตร ซึ่งค่อนข้างแคบและชัน แต่เมื่อลงไปถึงจุดชมวิวก็จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกได้อย่างสวยงาม หากไปในฤดูฝนมีน้ำมาก ละอองน้ำจะกระเซ็นต้องกับแสงอาทิตย์เป็นสายรุ้งอย่างงดงาม แต่หากมาชมในหน้าแล้งนั้นอาจต้องผิดหวังเพราะไม่มีน้ำ เห็นแต่เพียงหน้าผาแห้งๆ เท่านั้น
    ในความเป็นจริงแล้ว น้ำตกเหวนรกนั้นมีอยู่ 2 ชั้น ที่ได้ชมนี้เป็นชั้นที่ 1 โดยมีความสูงของตัวน้ำตกประมาณ 50 เมตร ส่วนชั้นที่ 2 นั้นอยู่ห่างออกไป ซึ่งชั้นที่สองนี้มีความสูงมากกว่าชั้นแรกเสียอีก เพียงแต่ไม่มีทางเดินเพื่อไปชมน้ำตกชั้นที่สอง ภาพถ่ายน้ำตกเหวนรกที่มีภาพชั้นที่สองด้วยมีแต่ที่เป็นภาพถ่ายทางอากาศเท่านั้น








น้ำตกห้วยขมิ้น :อุทยานแห่งชาติ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี
       น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีลีลาเชิงชั้นอ่อนช้อย ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ น้ำใส สะอาด และด้วยลักษณะ ของหินปูนจึงไม่ค่อยมีตะไคร่น้ำจับที่พื้น สามารถเดินได้ดีไม่ลื่น  ตั้งอยู่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เกิดจากผืนป่าต้นน้ำแม่น้ำแควใหญ่ หรือแม่กลอง มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ น้ำตกแม่ขมิ้น เกิดจากห้วยแม่ขมิ้น เป็นชั้นน้ำตกหินปูนมีถึง 7 ชั้นด้วยกันทำให้เกิดลำห้วยแม่ขมิ้น และก่อให้เกิดน้ำตกที่สวยงามถึง 7 แห่ง ได้แก่ ชั้นที่ 1 ดงว่าน ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ชั้นที่ 5ไหลจนหลง ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า และชั้นที่น่าสนใจที่สุดคือ ชั้นที่ 4 และเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนที่ชั้นนี้เนื่องจากอยู่บนเทือกเขา ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเขื่อนศรีนครินทร์



น้ำตกเขาสอยดาว :เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จ.จันทบุรี
         น้ำตกเขาสอยดาว อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อำเภอสอยดาว จันทบุรี น้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ ๔ กิโลเมตร  มี ๑๖ ชั้น บริเวณธารน้ำตกมีผีเสื้อจำนวนมาก เหมาะสำหรับการดูผีเสื้อและศึกษาพรรณไม้ ซึ่งพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวนั้นมีสภาพป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรังและสมุนไพร เช่น กระชายป่า กระวาน สัตว์ป่า ไก่ฟ้าหลังขาวจันทบูรณ์ นกสาริกาเขียวหางสั้น สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน โดยมียอดเขาสูง ๒ ยอด คือ ยอดสอยดาวเหนือและสอยดาวใต้ ความสูงของยอดสูงสุดคือ ยอดสอยดาวใต้ อยู่ที่ประมาณ ๑,๖๗๕ เมตร จากระดับน้ำทะเล สภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์เป็นต้นกำเนิดของธารน้ำหลายสาย ไหลตกลงมาเป็นน้ำตกเขาสอยดาวขนาดใหญ่ ท่ามกลางป่าลึกที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าเข้าไปชม
ตลอดเส้นทางเดินชมน้ำตกมีทั้งความงามและความตื่นเต้นท้าทาย เช่น         ชั้นน้ำตกที่ต้องปีนผาไปตามรากไทรสูงราว ๒๐ เมตร กระทั่งถึงน้ำตกชั้นบนสุดซึ่งมีขนาดสูงใหญ่ งดงามยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นน้ำตกได้ถึงชั้นที่ ๙ ระยะทาง ๒.๕ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินขึ้นเกือบ ๒ ชั่วโมง ส่วนชั้นที่ ๑๐-๑๖ ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ใช้เวลาเดินอีก ๑ ชั่วโมง  บริเวณน้ำตกมีบ้านพักรับรองบริการนักท่องเที่ยว


น้ำตกเอราวัณ :อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี

           เดิมมีชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาสลอบ ประกาศเป็นเขตอุทยานฯ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2518 มีเนื้อที่ 343,735 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เนื่องจากชั้นสูงสุดของน้ำตกเป็นธรรมชาติ ที่มีลักษณะคล้ายหัวช้างเอราวัณ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ
น้ำตกเอราวัณ อยู่ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ต้นน้ำเกิดจากลำห้วยม่องไล่ไหลผ่านลงจากยอดเขาและผาสูง 2,100 เมตร น้ำตกเอราวัณมีความยาว 1,500 เมตร แบ่งเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นอ่างสามารถเล่นน้ำได้ และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอราวัณ ระยะทาง 1,060 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผ่านป่าดิบเขา จุดชมวิวและป่าผลัดใบที่สวยงาม ท่านจะได้รับความเพลิดเพลินในการชื่นชมธรรมชาติและได้ความรู้จากป้ายสื่อความหมาย






น้ำตกพลิ้ว :อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี

           น้ำตกพลิ้ว Namtok phile อยู่ที่อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ปกติน้ำใสมากสามารถมองเห็นพื้นล่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลองมีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลาแก่ผู้ที่ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ น้ำตกพลิ้ว   ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 200 เมตร น้ำใสเหมาะกับการลงเล่นน้ำ ก่อนถึงตัวน้ำตกจะมีแอ่งน้ำ ธรรมชาติซึ่งเป็นที่อาศัยของปลาพลวง และจะพบเฉพาะตามลำธารน้ำตกบางภาคเท่านั้น และในบริเวณน้ำตกพลิ้วยังมีโบราณสถานที่สำคัญอยู่สองแห่ง ได้แก่ อลงกรณ์เจดีย์  สร้างด้วยศิลาแลงเมื่อ พ.ศ. 2419 โดยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วเมื่อ พ.ศ. 2417 ทั้งสองพระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยในน้ำตกพลิ้วมาก จึงโปรดให้สร้างเจดีย์ไว้เพ ื่อเป็นที่ระลึกและพระราชทานนามเจดีย์นี้ว่า “อลงกรณ์เจดีย์”
ปิรามิดพระนางเรือล่ม   เป็นสถูปทรงปิรามิดสร้างด้วยหินแกรนิต เมื่อ พ.ศ.2424 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความรักที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงมีต่อพระนางเจ้าสุนันทาฯ หลังจากที่พระองค์เสด็จทิวงคตเนื่องจากเรือพระประเทียบล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในปิรามิดบรรจุพระ อังคารส่วนหนึ่งของพระองค์ไว้ด้วย  กรมแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีบริการบ้านพักในบริเวณน้ำตกพลิ้วด้วย




น้ำตกกรุงชิง :อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช

ที่ตั้ง
ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ต.กรุงชิง กิ่งอำเภอนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
การเดินทาง
จากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ใช้เส้นทางหลวงสายนครศรีธรรมราชพรหมคีรี 4016 ถึงสามแยก เหรงเลี้ยวซ้ายไปถึงกิ่งอำเภอนบพิตำแล้วเลี้ยวขวาเขาสู่ถนนทางหลวงหมายเลข 4186 รวมระยะทาง 70 กิโลเมตร


เป็นน้ำตกที่สวยงามและสำคัญของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ชื่อ “กรุงชิง” มาจาก “ต้นชิง” ซึ่งเป็น พรรณไม้ในตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งที่มีมากมายในเขตนี้
การเดินทางสู่น้ำตกกรุงชิงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ท่ามกลางเส้นทางที่แวดล้อมไปด้วยพืช พรรณเพื่อจะเข้าถึงน้ำตกทั้ง 6 ชั้น
น้ำตกทั้ง 6 ชั้นมีชื่อแตกต่างกันไป เช่น หนานมัดแพ หนานฝนแสนห่า หนานปลิว หนานจน หนาน โจร หนานต้นตอ หนานวังเรือบิน ชั้นที่สวยที่สุดคือ “หนานฝนแสนห่า” เกิดจากกระแสน้ำเชี่ยวทิ้ง ตัวลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร กระทบกับเบื้องล่างกระจายเป็นละอองน้ำคล้ายม่านฝน ระยะทางประมาณ 3.8 กิโลเมตร บริเวณน้ำตกกรุงชิงมีที่พักและสถานที่สำหรับเล่นแคมป์ไฟ มีร้าน ค้าและร้านอาหารตั้งอยู่เชิงเขา






น้ำตกขุนพอง:อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย

           น้ำตกขุนพอง เป็นน้ำตกที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และเป็นน้ำตกใหญ่ที่สุดบนภูกระดึง อยู่ทางทิศตะวันตก เกิดจาก ลำธารหลายสายที่ไหลมารวมกัน ได้แก่ วังกวาง ธารสวรรค์ ธารพระองค์ และธารถ้ำสอ เป็นน้ำตกที่อยู่ในป่าดงดิบ ในส่วนของป่าปิด จึงเที่ยวได้เฉพาะช่วงฤดูแล้งเท่านั้น คือตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมิถุนายน และ ต้องทำเรื่องขออนุญาตพร้อมขอเจ้าหน้าที่นำทางด้วย การเดินเท้าเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกจะต้องเดินผ่านป่าสนและป่า ดงดิบ ระยะทางราว 10 กิโลเมตร ในช่วงฤดูหนาว ต้นเมเปิลจะเปลี่ยนสีใบจากเขียวเป็นแดง ร่วงหล่นทั่วบริเวณ น้ำตก อันเป็นที่มาของภาพงดงามซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของภูกระดึง โดยเมเปิลจะเปลี่ยนสีและผลัดใบในช่วงต้น เดือนธันวาคม
       นอกจากน้ำตกขุนพองแล้ว บนที่ราบยอดภูกระดึงยังมีน้ำตกอื่น ๆ ให้เที่ยวชมอีกหลายแห่งด้วยกัน เช่นน้ำตกวัง กวาง น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกโผนพบ และน้ำตกหงษ์ทองเป็นต้น น้ำตกเหล่านี้ มีความ สวยงาม มีธารน้ำใสเย็นและปลอดภัยในการลงเล่นน้ำ นักท่องเที่ยวควรมีเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวบนภูกระดึง อย่างน้อย 3 วัน จึงจะคุ้มค่ากับการเดินฝ่าความสูงชันขึ้นไป และหากจะเดินทางไปเพื่อชมน้ำตก ควรไปในช่วงหลัง ฤดูฝน คือประมาณเดือนตุลาคมถึงธันวาคมเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นน้ำตกจะไม่ค่อยมีน้ำ
   อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะปิดช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายนทุกปี เพราะการเดินทางค่อนข้าง ลำบาก และเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวกลับมาสดชื่นอีกครั้งหนึ่ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น